Apart from the basic Thai sentence structure: Subject + Verb + (Object), Thai sentences can be formed with different word order as shown below:
1. A sentence can start with 'Object': Object + (Subject) + Verb. This is similar to Passive Voice in English. The word 'ถูก' or 'โดน'is usually (but not necessary) being added after the object to form this sentence structure.
For example, "นักเรียนถูกครูตี" (A student was hit by a teacher.) or "นักเรียนโดนตี" (A student was hit.)
2. A sentence can start with 'Verb', that is Verb + Noun + Place. However, there are only three verbs which can be put in the beginning of a sentence. These verbs are 'เกิด', 'มี' and 'ปรากฎ' (happen/there is/there are/occur).
For example,
เกิดน้ำท่วมในหมู่บ้าน (There is a flood in the village.)
มีแมวอยู่บนเตียง (There is a cat on the bed.)
ปรากฎเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่ทุ่งนา (There was an unexpected event in the field.)
1. กรรม + (ประธาน) + กริยา
คนถูกยุงกัด
นกถูกยิง
ป้าถูกรถชน
นิยายเรื่องนี้แปลเป็นไทยแล้ว
บ้านนี้สร้างเมื่อสองปีก่อน
เขาโดนผึ้งต่อย
2. กริยา + คำนาม + สถานที่
มีปูในนา
เกิดอุทกภัยที่ภาคใต้
ปรากฎเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่โรงเรียน
ขโมย | มีถูกตำรวจจับ
โดน | บทเรียนนี้สอนเมื่อวันพ
ุธที่แล้ว
ถูก | น้องถูกพี่แกล้ง
เด็ก | ถูกถูกหมากัด
โดน | มีเงินอยู่ในลิ้นชัก
ถูก | เกิดไฟไหม้ที่ตลาด
มี | ถูกแมวอยู่ใต้โต๊ะ
เขา | เขาโดนถูกฟ้องร้อง
ถูก | ธนาคารถูกปล้น
โดน | ปรากฏเหตุการณ์ประหลาดท
ี่กรุงเทพ
ถูก | มีอาหารอยู่ในตู้เย็น
เกิด | ถูกน้ำท่วมที่ญี่ปุ่น
ฉันมี | ถูกหลอก
พ่อโดน | เกิดโกงเงินห้าล้าน
พี่ | มีโดนแม่ดุ
เขามี | ถูกหยิก
มี | โดนเต่าอยู่บนพื้น
ถูก | เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่บ
้านของป้า
โครงการนี้สร้าง | มีโดยคนไทย
ขโมยถูกตำรวจจับ
บทเรียนนี้สอนเมื่อวันพ
ุธที่แล้ว
น้องถูกพี่แกล้ง
เด็กถูกหมากัด
มีเงินอยู่ในลิ้นชัก
เกิดไฟไหม้ที่ตลาด
มีแมวอยู่ใต้โต๊ะ
เขาถูกฟ้องร้อง
ธนาคารถูกปล้น
ปรากฏเหตุการณ์ประหลาดท
ี่กรุงเทพ
มีอาหารอยู่ในตู้เย็น
เกิดน้ำท่วมที่ญี่ปุ่น
ฉันถูกหลอก
พ่อโดนโกงเงินห้าล้าน
พี่โดนแม่ดุ
เขาถูกหยิก
มีเต่าอยู่บนพื้น
เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่บ
้านของป้า
โครงการนี้สร้างโดยคนไทย
